ข่าวจาก Bloomberg Businessweek กล่าวว่าตอนนี้ Silicon Valley กำลังสนใจฮาร์ดแวร์ อีกครั้ง จากความสำเร็จที่ Apple ได้รวบกินตลาดทั้ง ส่วนกายภาพอย่างฮาร์ดแวร์ อย่าง ipad iphone และ ส่วนของโปรแกรม iOS และทั้งส่วนของบริการ Online ที่ทำให้ apple ได้กำไรเป็นอย่างมาก การร่วมมือเช่นเดียวกันนี้ แน่นอนใช้งบลงทุนสูง เวลามากมาย และมีความเสี่ยงสูงมาก ถ้า ecosystem นี้มันไม่ work แบบ apple ทำได้สำเร็จ
แต่ทิศทางของบริษัทใหญ่ ตอนนี้มีแนวทางเพิ่มส่วนพัฒนาฮาร์ดแวร์ เพิ่มขึ้นในบริษัทอย่าง
- Microsoft กำลังสร้าง Surface tablets ที่เขาออกแบบเอง เข้าร่วมแข่งกับ pc partners ของเขาเอง
- Google ประกาศร่วมมือกับ ASUS เพื่อสร้าง Nexus 7 และ เร็วๆนี้ สร้าง Nexus Q
- Amazon สร้าง Kindles เพื่อสร้าง ecosystem สำหรับ ebook และอาจจะสามารถ smartphone ของเราเองอีก
- Oracle ก็ยังซื้อบริษัท Sun Microsystems เพื่อสร้างคอมพิวเตอร์สำหรับฐานข้อมูล
- Facebook ก็เหมือนมีกำลังมีแผนจะทำ smartphone ของเขาเองเหมือนกัน
- Teasla สร้างรถยนต์ sport ใช้ไฟฟ้าสุดหรู
บางธุรกิจการการมีฮาร์ดแวร์ อาจไม่จำเป็น อาจจะต้องมีเพื่อให้ธุรกิจ ต่างจากเจ้าอื่น แต่บางธุรกิจ อาจจะเป็นโอกาสที่ทำให้เขากลับมาอยู่ต่อได้ อย่าง Nook e-reader ที่ช่วยให้ Barnes & Noble กลับมาสู้ กับธุรกิจขายหนังสือแบบ online ได้
บริษัทซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ คิดว่าการมีฮาร์ดแวร์ มันช่วยการเชื่อมต่อกันระหว่างโลก on-line ที่ลูกค้าของเขาใช้งานกันอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ขยายออกมาหาลูกค้าในโลก Off-line อยู่ที่ไหน สามารถใช้งานผลิตภัณท์ของเขาได้
สำหรับ บริษัทฮาร์ดแวร์ตั้งต้น (startup) ที่อยากจะสร้างและขายอุปกรณ์ gadget เป็นโอกาสอันดี ด้วยโลกที่อุดมไปด้วย soical network แบบปัจจุบัน ทำให้เราสามารถใช้โปรโมตสินค้า เปิดขายตรงให้ลูกค้าได้ ประหยัด ค่าใช้จ่ายหน้าร้าน การโฆษณา ช่วยให้ลงทุนน้อยกว่า และ เสี่ยงน้อยกว่า
ความคิดเรื่อง อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ มันจำเป็น มันตรงกับความคิดของ Grishin Robotics คิดว่า ต่อไปหุ่นยนต์จะเป็นผลิตภัณท์ที่ช่วยสานต่อโลก offline กับโลก online เช่นกัน จึงแผนลงทุนใน บริษัทฮาร์ดแวร์ตั้งต้นทางด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์สูงมาก ที่มีศักย์ภาพสูงจะดันออกจากห้องทดลองออกมาเป็นโลกจริง ซึ่งทิศทางการลงทุนมันตรงกับ ข้อมูลจากเวป kickstarter.com ซึ่งเป็นเวประดมทุน แบบ crowd funding ที่บอกข้อมูลว่า มีการลงทุนสูงในโปรเจคทางด้านเทคโนโลยี
เวป KickStarter เป็นเวประดมทุนครับ ที่เหมือน ธนาคาร VC ที่ให้เงินกับบริษัทหรือโปรเจคที่น่าลงทุน แต่ KickStarter จะเปิดโอกาสให้ผู้คนปกติ มีโอกาสลงทุนได้ ครับ ซึ่งมันก็ดี ตรงที่ คนคิดที่มีไอเดีย แต่หางบประมาณลงทุนไม่ได้ ถ้าทำ present โปรเจคดี มีโปรไฟล์ดี ก็เป็นไปได้ที่จะได้เงินลงทุนสูง และ มันมีผลดีกับคนอยากลงทุน ที่ไม่ต้องใช้เงินเยอะ สามารถลงทุน กับสิ่งที่เขาอยากลงทุนได้
โดยจากกราฟมีโปรเจคทางเทคโนโลยี(TECHNOLOGY) เพียง 356 โปรเจค คิดเป็น 1.4 % แต่มีเม็ดเงินลงทุนสูงถึง $27,677 ต่างจาก VIDEO มีถึง 7135 โปรเจค และ MUSIC ที่ 7,545 โปรเจค ซึ่งรวมเป็น 50% ของทั้งหมด มีเม็ดเงินลงทุน $16,000 ต่างกันเยอะมาก
เวป kickstartup นี้น่าจะบ่งชี้ ได้ว่า คนส่วนใหญ่สนใจลงทุนกับโปรเจคเทคโนโลยีมากกว่า ถึงแม้เราจะรู้ว่าเสี่ยงสูง ถ้ามันไม่เวิร์กขึ้นมา แต่ผลตอบแทน มันก็กลับมาหลายเท่า
เอาล่ะครับ เหล่าวิศวกรทั้งหลาย ตอนนี้น่าจะโอกาสที่ดี สำหรับพวกเรานะครับ ถึงแม่ข่าวนี้จะบอกว่าเป็นการแข่งขันของบริษัทใหญ่อย่าง กูเกิล และ ไมโครซอร์ฟ ที่ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อสู้กับ แอปเปิล แต่ บริษัท startup อย่างเราก็ไม่ควรจะมองข้ามโอกาสนี้ไปด้วย หากมีไอเดียดี โปรดักส์ดี โอกาสที่บริษัทจะเกิดมาแล้ว
เรียงเรียบจาก Infographic – ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการและเงินทุนที่ได้ในเว็บไซต์ Kickstarter, Grishin Robotics พร้อมลงทุน 25 ล้านดอลลาร์ให้กับการตั้งต้นธุรกิจหุ่นยนต์, In Silicon Valley, Hardware Is Hot Again @ Businessweek.
พี่ได้ยินข่าวนี้ มาเมื่อต้นปี และในช่วงสองเดือนนี้ มีเป็นเนื้อข่าวมาให้อ่าน จนมาเจอที่น้องช้างเขียนเล่า และล่าสุด ก็ได้รับเมล์จาก ผอ. NSTDA พูดถึงเรื่องนี้อีกเช่นกัน แต่ที่น่าสนใจก็คือ เอเซีย จีน ไต้หวัน มาเลเซีย จะได้รับผลกระทบอะไรอีกหรือไม่ เมื่อความเชื่อนี้ กลับไปสู่ซิลิคอนวัลเลย์ อีกครั้ง เพราะคิดแบบ Apple ได้กำไรมากกว่ากันเยอะเลยนะค่ะ