ผมเอาเกร็ดความรู้ เกี่ยวกับบริษัทผลิต CPU ตระกูล ARM ที่ตอนนี้นิยมมาก และเห็นใช้กันมากในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท ทั้งมือถือ , gadget ,คอมพิวเตอร์ ผมคิด CPU ARM มาจากไหน
เรื่องนี้ ผมไม่ได้รวบรวมมาเองนะครับ นั่งฟังเพื่อนๆ ในเวปคุยกัน เลยขอเขามาลง ผมเห็นว่ามันเป็นตำนาน ส่วนหนึ่งของ silicon valley ที่แต่ล่ะเรื่องอย่างกับละครมันส์เลยครับ
สำหรับประเทศที่พัฒนาแล้วไม่ว่าจะเป็น อเมริกา ,ญี่ปุ่น เราจะเห็นว่า ภาคธุรกิจเป็นตัวขับเคลื่อนเทคโนโลยี จะเห็นว่ามีการแข่งกันพัฒนาเทคโนโลยีกัน ตลอดเวลา ซึ่งจะเห็นว่า ประเทศเหล่านี้เติบโตได้ด้วยเทคโนโลยีที่สร้างขึ้นมาเอง ซึ่งต่างจากเรา รอซื้อ และก้อรอซื้อ ไม่มีเทคโนโลยีของตัวเอง คือมันไม่ตาย แต่มันยังไม่โต
สำหรับเริ่มต้นมาจาก samira แห่ง electoday เอาข้อมูลเพื่อซื้อหุ้น บริษัท Arm holding ครับ ,ป๋าเรากำลังจะ take over เลยเหรอครับ ฮ่าๆ อย่าคิดมาก ซื้อหุ้น ต้องศึกษาสักนิดหน่อย
เรือง ARM holding เป็นบริษัทที่ออกแบบ ทำ microprocessor หรือ microcontroller และที่พวกเรารู้จักกันดี คือ ARM chip ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ อยู่ที่ Cambridge อังกฤษ เริ่มตั้งปี 1994
บริษัทนี้เริ่มจากการร่วมมือลงทุนร่วมกันระหว่าง บริษัท Acorn computer, Apple computer และ บริษัท VLSI Technology โดยเรียกว่า Advanced RISC Machine (?? ARM ) โดยตั้งใจจะพัฒนา Acorn RISC Machine chip ซึ่งปัจจุบันนี้ กลายเป็น core ของ สินค้าหลายตัวของบริษัท
บริษัทนี้มีส่วนแบ่งในตลาด mobile phone chip สูงกว่าบริษัทอื่น มีงานออกแบบ chip และยังมี software ในเครือที่รองรับ chip ของเขา นอกจากนี้บริษัทยังไปซื้อบริษัทอื่น เช่น ในปี 2005 ARM ไปซื้อ KEIL software เข้ามาอยู่ในเครืออีก
พอปี 1998 ก็เปลี่ยนชือบริษัทเป็น ARM Ltd. ออกตลาดหุ้นในอังกฤษและอเมริกา ปีเดียวกัน จากนั้น บริษัทก็เริ่มกวาดซื้อบริษัทที่เกี่ยวกับ พวก software มากขึ้น รวมไปถึงบริษัทแถวเบลเยี่ยม นอร์เวเข้ามาด้วย
ชื่อของบริษัท ตอนแรก เอามาจาก Acon RISC Machine ( ARM ) ต่อมาบริษัท ใช้ว่า มาจาก Advanced RISC Machines เมื่อบริษัทออกตลาด คำว่า RISC ออกเสียงเหมือน risk( เสี่ยง) เกรงผู้ลงทุนจะเข้าใจผิดว่า มันเสี่ยง เลยเปลี่ยนชื่อบริษัทตอนออกตลาด ว่า ARM Holding ขณะนี้ บริษัทมี สำนักงาน ไปแทบทั่วทุกภูมิภาคของโลก
คุณลักษณะสำคัญของ ARM chip คือ low electric power consumption (ใช้ไฟน้อย) เหมาะกับอุปกรณ์พกพา สินค้าพวก mobile phone, PDA ใช้ ARM chip แทบทั้งสิ้น รวมไปถึง 32 bit microprocessor ปัจจุบัน ARM ครองตลาดด้านนี้ประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ ของ 32-bit embedded CPU บริษัทที่ซื้อ license ของ ARM ไปผลิตสินค้าได้แก่ Nokia, Sony Ericsson และ Samsung พวกสินค้าพวก Games ต่างๆ ก็ใช้ ARM chip เช่นกัน
อย่างที่ว่า ARM นั้นไม่เหมือนกับ บริษัทสร้าง chip อื่นๆ เช่น AMD, Intel หรือ Freescale ตรงที่ ARM เขาขาย license ที่เรียกว่า สมบัติทางปัญญา ให้คนอื่น เอาไปสร้าง โดยตนเองไม่มีโรงงานสร้าง chip เองเลย
ที่กล่าวมา บริษัท ARM Holdings เป็นบริษัทออกแบบ CPU ARM ไม่ได้มีการผลิตแต่อย่างไร เรียกได้ว่าเป็นบริษัทคงจะเล็กครับ มีแต่ทีม Design แล้วเขาทำได้อย่างไง ทั้งที่บริษัท semi-conductor ใหญ่ๆ เยอะ ยังไม่ผลิต CPU แข่งได้ล่ะ
ท่าน drmatrix6502 มาเสริม แล้วสงสัยกันไหมว่าทำไมเขาจึงเลือกใช้ arm กัน
เคยสงสัยกันไหมครับ ว่า “ทำไม ARM มันเจ๋งมากถึงขนาดบริษัทที่ผลิต Chip ใหญ่ทั่วโลกต้องมาซื้อแบบไปผลิต” แม้แต่บริษัทที่ออกแบบ Chip เองได้อย่าง Atmel Toshiba และอื่นๆ ยังต้องซื้อลิขสิทธิ์เลย ผมคนหนึ่งหละสงสัยมาก ทำไมไม่ออกแบบ เอง เอาเงินไปแจกให้ ARM ทำไม มันเป็นสุดยอดการออกแบบจนใครทำให้เก่งเท่าไม่ได้หรืออย่างไร ผมเลยไปลองค้นคว้าดู ก็ได้พบคำตอบครับ ผมจะลำดับเรื่องให้อ่านกัน บัดเดี๋ยวนี้
เริ่มต้นที่ Acorn ครับ ตอนนั้นเอา Chip 6502 มาผลิตเป็นเครื่องขาย เช่นเดียวกันกับเจ้าอื่น เช่น Apple ก็มี Apple ][ เวลานั้น ก็หลักๆ มีสอง CPU คือ 6502 กับ Z80 แต่พอ IBM PC มา ด้วย Chip 16 Bits ของ Intel เบอร์ 8086 พวกนี้ก็ตายหมดครับ ตลาดเทไปหา IBM กันหมด Acorn เลยคิดกันว่าทำไมหนอเราจึงแพ้เครื่อง IBM PC สุดท้ายก็สรุปว่าเป็นเพราะ CPU ขนาด 16 bits นั่นเอง ที่เจ๋งกว่า 8 bits ของเรา อย่ากระนั้นเลย เราออกแบบ CPU เองเลยดีกว่า เอามันเป็นขนาด 32 bits ไปเลย แบบนี้ชนะ IBM PC แน่ๆ (ว่ากันว่า CPU ที่ออกแบบนั้น เรียบง่ายสุดๆ อาจเป็นเพราะเป็นมือใหม่ในการออกแบบ ยังทำซับซ้อนไม่เป็น แต่ความเป็น 32 bits ทำให้แรงได้ใจจริงๆ) เวลานั้นก็ว่าจ้าง VLSI เป็นผู้ผลิตให้ ผลลัพธ์ไม่ต้องเดาครับ ว่างานนี้เจ๊งไม่เป็นท่าครับ ตลาดไม่ตอบรับ เครื่องเร็วจริงแต่ไม่มี Software รองรับ
จากนั้น Apple มาร่วมด้วย แบกเอา Project สุด Hip เป็น Gadget ชื่อ Apple Newton ที่ PDA ตัวแรก สามอกหักประสานกันเป็นบริษัทใหม่ชื่อ ARM Holding ออกแบบ Chip Mobile ให้กับ Apple Newton แต่ Apple Newton ก็เป็นผู้มาก่อนกาล ตลาดยังไม่รู้จัก PDA ก็เลยเจ๊งอีกครั้ง
จนกระทั่ง DEC บริษัทที่ทำ Server สำหรับ UNIX มาเห็น Apple Newton ก็เลยอยากจะแตก Line มาทำตลาด PDA บ้าง ก็เลยร่วมมือกับ ARM Holding ออกแบบ CPU ขึ้นมาอีกตัว ตั้งชื่อว่า StrongARM หน้าตาของมันดูได้จากที่นี่ครับ http://en.wikipedia.org/wiki/StrongARM ขายในนามของ DEC
งานนี้ ยังไม่ทำขายเท่าไหร่ Intel ก็ฟ้องครับ กล่าวหาว่า ภายใน StrongARM นั้นบางส่วนละเมิดสิทธิบัตรของ Intel ขึ้นศาลกันไป สุดท้าย ศาลตัดสินให้ DEC แพ้คดีครับ ล้มละลายไปเลย ดังนั้น StrongARM ก็เลยตกเป็นกรรมสิทธิของ Intel
ARM เคยพลาดพ่ายแพ้กับ Intel เรื่องสงคราม CPU มาครั้งแรก ตอนนั้นทาง ARM ออก CPU 8 bit ซึ่งสู้ Intel ที่ออก CPU 16 Bit มาไม่ได้ ทาง ARM จึงคิดแก้เกมส์โดยการออก CPU 32 bit ขึ้นมา แต่ว่าก้อยังเข้าถึงตลาดไม่ได้อีก เนื่องจาก Intel ได้ครองตลาด Software ไปสักแล้ว คือโปรแกรมส่วนใหญ่ ออกแบบให้ใช้บน intel ในตอนนั้น CPU จึงยังไม่เกิด
ซึ่งทาง ARM ไม่ได้ยอมแพ้ ยังหวังจะดัน CPU เข้าสู่ตลาดให้ได้ครับ จึงได้ปรับปรุง CPU32Bit ไป เพ่ื่อนำไปกับอุปกรณ์ Mobile แต่รอบนี้ ก้อยังโดน Intel สกัดไปอีกรอบ ด้วยในตอนนั้น Intel ก้อมี CPU Mobile ชื่อ xscale ทาง Intel ใช้ กฏหมายการละเมิดทรัพย์ิสินทางปัญญาอีก เห็นได้ว่าเป็นรายย่อยในตลาด ไม่แข็งจริง ตายได้ง่ายๆครับ กว่าจะเป็น ARM นี้ช่างยากเย็นจริงๆ
ตอนนั้น เป็นช่วงใกล้ๆ ปี 2000 แล้ว ตลาด PDA เริ่มมา เครื่อง Palm ท่าจะรุ่ง Intel ก็กลัวหล่นขบวน จำต้องออกแบบ CPU กำลังสูง ทีี่เป็นแบบ Mobile ซึ่งน่าจะไม่ใช่งานถนัดของ Intel เพราะเก่งที่ใช้ Heat Sink ใหญ่ๆ พัดลมโตๆ งานนี้ก็เลยนึกถึง StrongARM ที่ยึดมาได้ ปะแป้งแต่งตัวใหม่ออกมาในชื่อของ Intel แล้วก็ไปตกลงกับ Microsoft ให้ผลิต OS และ Software ให้ จนกลายเป็น Pocket PC ที่เราเห็นกันทุกวันนี้ นับเป็นครั้งแรก (เท่าที่ผมรู้) ว่า Microsoft ผลิต OS ให้กับ CPU นอกตระกูล Intel x86, Intel Itanium
งาน นี้คงต้องบอกว่าการตัดสินใจครั้งนั้นของ Intel ผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง ชักศึกเข้าบ้านเหมือนม้าไม้เมืองทรอย เพราะการทำเช่นนั้น ทำให้บริษัทที่ผลิตอะไรก็เจ๊งอย่าง ARM ฟื้นคืนชีพ ARM จัดแจงปรับ CPU ของตัวเองเอาสิทธิบัตรของ Intel ออกหมด แล้วไปเร่ขายแบบพิมพ์เขียว ใครอยากทำ CPU mobile ที่เล่น OS Windows CE ได้ให้มาซื้อลิขสิทธิของ ARM ไปผลิตโดยพลัน ARM เลยเป็นเสือนอนกินตั้งแต่บัดนั้นมา นั่นตอบโจทย์ที่ผมสงสัยมานานว่าทำไมใครๆ
ก็ ต้องซื้อสิทธิบัตรของ ARM กัน ซึ่งต่างจากกรณีของ 8051 ที่คนซื้อลิขสิทธิ์ก็เพราะตลาดคุ้นเคยกับ CPU เบอร์นี้อยู่แล้ว (ปัจจุบัน ARM ก็ขึ้นหิ้งเหมือน 8051 แล้ว คนซื้อไปผลิตไม่ใช่เพราะ Windows CE อย่างเดียว ต้องรวมถึง Linux ด้วย และที่สำคัญคือ คนคุ้นเคยเล้วเหมือน 8051)
สถานการณ์ ปัจจุบัน Intel ก็ขายกิจการ Chip Mobile ให้แก่ Marvell ไปแล้ว เป็นสัญลักษณ์การยกธงขาวในส่วนนี้ไป ส่วน ARM ก็รุ่งขึ้นเรื่อยๆ จำนวนยอดผลิต Chip ตระกูล ARM ทะลุเกิน Intel ไปแล้ว มันไปฝังอยู่อุปกรณ์ต่างๆ มากมาย รวมทั้งโทรศัพท์มือถือด้วย ส่วนตลาดของ Windows Mobile ก็แผ่วลงไป แต่ตลาด Linux กำลังเฟื่อง Linux ถือว่า ARM เป็น CPU หลักตัวหนึ่งทีรองรับ (Android ก็ ARM คือกัน) วันนี้รอเพียง Linux พร้อมกว่านี้ ARM จะเข้าตีหม้อข้าวของ Intel นั่นคือตลาด Desktop
ในยุคนั้น ตลาด pocket pc /palm โตวันโตคืน แต่เห็นว่าอยู่ดีๆ palm มันก้อหมดความน่าสนใจไปอย่างงั้น เหลือแต่ pocket pc ที่แตกลูก แตกหลานจนเต็มไปหมด โดยก่อนหน้านั้น ไม่รู้ยังจำกันได้หรือป่าวว่า Pocket PC รุ่นแรกๆ มันเป็น Intel XSCALE แต่อยู่ดีๆ มันก้อหายไปจากตลาดหมด เหลือแต่ ARM ของ Samsung ได้
Arm ใช้วิธีทำลายการผูกขาดตลาดของ Intel ด้วยกันเอาพิมพ์เขียวของ CPU ที่ทาง ARM นำไปแก้ไขตัดสิทธิบัตรของ intel ออกขายให้โรงงานอื่นๆ ซึ่งผลตามคาดว่าราคา cpu คงจะถูกมาก เพราะว่ามีหลายเจ้าเอาไปผลิต ARM จึงกลายเป็นบริษัทเสือนอนกินไปเลย ขายแต่สัมปทนา เฮ้ย!! ขายแต่กรรมสิทธิ์การผลิตให้กับโรงงาน คือผู้บริโภค ผู้ผลิต ไม่ชอบอะไรเหมือนบังคับครับ, การจับมือกัน ผูกขาดการตลาดกลายของ wintel (Windows + Intel) ตั้งแต่ตลาด Sever ,Desktop จนมาถึง Mobile Device จึงมีทั้งกระแสต่อต้าน และกระแสจำยอมใช้ครับ มีอะไรก้อใช้แต่นั้นก้อได้
และอีกโปรเจคที่แสดงถึงการไม่ยอมต่อ Windows คือ Linux ที่ต้องยอมใช้ Windows ที่ไม่มีความเสถียรเอาสักเลย บวกกับ Mac-OS จึงทำให้ Windows แทบจะปรับตัวไม่ทัน (ในปีนี้ Windows จะมีอะไรใหม่ให้เราได้ตื้นเต้น เดี่ยวมาลุ้นว่าจะมาทวงแชมป์คืนได้ไหม)
สำหรับตอนนี้จึงกลายเป็น ARM+Linux แทนสำหรับงาน Mobile Device เกือบทั้งหมดครับ ไม่ว่าจะเป็น มือถือ Nokia, Android ,iphone ก้อด้วย ,Tablet PC หรือแม้แต่ Router ก้อใช้ CPU ARM ครับ นับจำนวนอุปกรณ์ ก้อเกินครึ่งโลก ถ้านับพวกโปรเจคเล็ก ในบ้านเราที่ใช้ ก้อไม่น้อยเลย อย่างงี้จะไม่ให้ บริษัทเขารวยได้อย่างไงล่ะครับ
เอาล่ะครับ ทุกอย่างมีขึ้นก้อ ต้องมีลง อีกหน่อยอาจจะมี CPU ที่มาแทน ARM ก้อเป็นได้ครับ ใน Silicon Valley มีอีกหลายเรื่องราวที่เป็นตำนานที่มันส์พอๆ กับละครน้ำเน่าบ้านเราล่ะครับ เดี่ยวมีอะไรมันๆจะมาเล่าให้ฟังใหม่ครับ ไปล่ะครับ
ทืี่มา ARM holding และ Silicon Fen